จากความอิ่มตัวของครอบครัว “จงไพบูลย์กิจ” ที่อยู่อาศัยในอาคารพาณิชย์มาโดยตลอด บวกกับการขยายตัวของภาคธุรกิจในเมืองเชียงรายจนทำให้ครอบครัวรู้สึกขาดความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย จึงนำมาสู่แนวคิดในการสร้างบ้านหลังใหม่ที่ลงตัวกับการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้นบนพื้นที่ในซอย 18 มิถุนา จังหวัดเชียงราย พร้อมพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านขนาด 440 ตร.ม. ภายใต้โจทย์ในการออกแบบบ้านสไตล์โมเดิร์นที่เน้นความเรียบง่าย แต่สามารถอยู่อาศัยได้อย่างเหมาะสมลงตัวกับสภาพภูมิอากาศ และลงตัวกับการใช้ชีวิตภายในบ้านได้อย่างเป็นส่วนตัว โดยมีทีมสถาปนิกจาก แปลงกาย Studio เป็นผู้รังสรรค์บ้านในฝันหลังนี้ขึ้นมาอย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียด
โปรเจคบ้าน “Haus 18″ หลังนี้ได้รับการออกแบบมาให้สวยทันสมัยในสไตล์โมเดิร์นรูปทรงกล่องขนาด 2 ชั้น ก่อนที่จะเติมเต็มความเป็นบ้านให้มีบรรยากาศอบอุ่นและน่าอยู่มากยิ่งขึ้น ภายใต้การออกแบบอาคารรูปตัว T ที่มีการซ้อนทับกัน ด้วยการเชื่อมต่อฟังก์ชั่นใช้สอยทั้งภายนอกและภายในบ้านให้มีความต่อเนื่องกันผ่านผนังกระจกใสขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถเปิดมุมมองของบ้านให้กว้างขวาง พร้อมเปิดรับแสงสว่างจากธรรมชาติได้อย่างเต็มที่โดยไม่ทำให้รู้สึกอึดอัดอย่างบ้านอาคารพาณิชย์หลังเก่าที่เคยอยู่อาศัย 
ด้วยการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัย ทีมสถาปนิกจึงเลือกใช้โครงสร้างระบบ Post Tension ซึ่งเป็นระบบพื้นไร้คานในการออกแบบ เพื่อสร้างบรรยากาศภายในบ้านให้มีความโปร่ง โล่ง สบาย และน่าอยู่มากยิ่งขึ้น เนื่องจากการสร้างบ้านด้วยระบบนี้ทำให้ไม่มีคานมากีดขวางงานระบบ จึงทำให้ระดับความสูงจากพื้นจรดเพดานภายในบ้านมีความสูงโปร่งมากกว่าเดิม 
นอกจากนี้ยังมีการนำวัสดุอย่าง เหล็ก มาใช้เป็นองค์ประกอบของงานสถาปัตยกรรม เพื่อสร้างเป็นกรอบให้กับ Façade บริเวณด้านบนและในส่วนชายคาหน้าบ้านให้ดูโดดเด่นและมีความเรียบเท่ชวนสะดุดตา ก่อนที่จะเติมเต็มความอบอุ่นให้กับตัวบ้านมากยิ่งขึ้น ด้วยการเลือกใช้วัสดุไม้ที่เป็นรูปแบบงานสถาปัตยกรรมเขตร้อนชื้นมาช่วยลดทอนความแข็งกระด้างของเหล็กและคอนกรีต พร้อมทั้งยังมีการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง ด้วยการดีไซน์ช่องระบายอากาศบริเวณใต้หลังคา Flat Slab ที่ต้องเผชิญความร้อนจากแสงแดดโดยตรงให้สามารถถ่ายเทความร้อนได้ดี โดยมีการเพิ่มความพิเศษให้กับ Façade ไม้ด้านหน้าของตัวบ้านที่สามารถเลื่อน เปิด-ปิด ได้ตามต้องการ ซึ่งสามารถเพิ่มความสวยงามและสร้าง Movement ให้กับการใช้ชีวิตภายในบ้านได้เป็นอย่างดี 
ลวดลายเส้นอันงดงามของวิวทิวเขา ซึ่งเป็นลักษณะอันโดดเด่นทางภูมิศาสตร์ของจังหวัดเชียงรายได้ถูกนำมาใช้ในการออกแบบแลนด์สเคปของบ้านให้รื่นรมย์ ทั้งการดีไซน์พื้นที่นอกบ้านให้เล่นระดับกันอย่างน่าสนใจ 
แนวคิดในการออกแบบภูมิทัศน์จากคอนทัวร์ภูเขา ซึ่งเป็นภูมิศาสตร์อันโดดเด่นของจังหวัดเชียงราย ถูกนำมาใช้โดยการผสมผสานวัสดุที่หลากหลายในแต่ละส่วน ไม่ว่าจะเป็น การตกแต่งพื้นที่รอบบ้านด้วยทรายล้างหลากเฉดสีที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละโซน การใช้หินกรวดตกแต่งพื้นเพื่อเติมเต็มความเป็นธรรมชาติร่วมกับไม้เทียมหลายสี และกระเบื้องหินกาบ ซึ่งสามารถลดทอนความแข็งกระด้างของปูนขัดมันได้ดี และยังมีการจัดสวนออกแบบโซนของพรรณไม้หลากชนิด อาทิเช่น กวักมรกต ลิ้นมังกร เศรษฐีเรือนนอก เฟิร์นใบมะขาม ก้ามปูหลุด เตยหอม ฯลฯ ตลอดจนถึงการปรับปรุงบ่อน้ำโบราณที่มีมาแต่เดิมให้กลายเป็น water feature ที่สวยงาม ร่วมสมัย และกลมกลืนกับภูมิทัศน์รอบบ้าน ตามความเชื่อดั้งเดิมของทางล้านนาที่ไม่นิยมถมหรือปิดบ่อน้ำ 
จุดเด่นของการออกแบบบ้านหลังนี้คือการเลือกใช้ระบบพื้นไร้คาน ซึ่งช่วยทำให้พื้นที่ภายในบ้านมีความโล่งกว้างและโปร่งสบาย ด้วยดีไซน์ช่วงเสาที่มีระยะห่างกันมากขึ้นและไม่มีเสากลางภายในบ้าน บวกกับระดับความสูงจากพื้นและเพดานที่มากกว่าการสร้างบ้านทั่วไป จึงทำให้พื้นที่ภายในบ้านสามารถใช้งานได้หลากหลาย พร้อมปรับรูปแบบการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ตามความต้องการ โดยมีการออกแบบพื้นที่บริเวณชั้นล่างให้เป็นโซนพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถใช้งานร่วมกัน ซึ่งมีการวางตำแหน่งห้องรับแขกเป็นจุดศุนย์กลางภายในบ้าน เพื่อเชื่อมต่อไปยังฟังก์ชั่นใช้งานอื่น ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งส่วนห้องรับประทานอาหาร ห้องครัว และมุมห้องทำงาน ในส่วนพื้นที่พักผ่อนส่วนตัวของสมาชิกภายในบ้าน ทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอนได้รับการจัดวางไว้ในบริเวณชั้นสองของบ้าน เพื่อมอบความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย 
พร้อมเชื่อมต่อบรรยากาศให้พื้นที่อยู่อาศัยทั้งภายนอกและภายในมีความต่อเนื่องถึงกัน ทีมสถาปนิกจึงเพิ่มความโปร่งโล่งให้พื้นที่ภายในบ้านสามารถเปิดรับแสงสว่างและวิวสวนภายนอกเข้าสู่พื้นที่ภายในบ้านได้มากยิ่งขึ้น ด้วยการออกแบบช่องประตูขนาดใหญ่พิเศษ โดยการเลือกใช้ประตูบานเลื่อนกระจกใสขนาดใหญ่ พร้อมออกแบบช่องแสงกระจกใสบริเวณด้านบนเพิ่มเติม เพื่อให้กลมกลืนไปกับผนังกระจกใสรอบบ้าน 
การตกแต่งภายในบ้านเน้นการออกแบบที่สะท้อนความโมเดิร์นทันสมัย แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกอบอุ่นชวนผ่อนคลาย ด้วยความเรียบง่ายจากเส้นสายที่ไม่ซับซ้อนและการใช้โทนสีขาวสบายตาที่เข้ากับผิวสัมผัสธรรมชาติจากวัสดุไม้โทนสีอ่อนที่ใช้ในการตกแต่งบ้าน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดทางสถาปัตยกรรมในสไตล์ทรอปิคอลที่เหมาะกับบ้านในภูมิอากาศเขตร้อนชื้นอย่างลงตัว โดยมีการเพิ่มลูกเล่นให้กับพื้นที่ในบางจุดด้วยการผสมผสานวัสดุที่หลากหลายร่วมกับงานไม้ เพื่อดีไซน์เป็นผนังกั้นระหว่างพื้นที่ใช้สอยในโซนห้องรับประทานอาหารให้เป็นสัดส่วนจากมุมห้องรับแขกของบ้าน แต่ก็ยังให้ความรู้สึกโปร่งโล่งทุกเวลา 
โซนห้องครัวถูกจัดวางไว้อย่างเป็นสัดส่วนจากพื้นที่ใช้สอยอื่น ๆ ภายในบ้าน เพื่อให้สามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้อย่างเหมาะสม โดยมีการออกแบบช่องแสงกระจกใสสำหรับเพิ่มความโปร่งโล่งให้พื้นที่ใช้งานในบริเวณนี้ให้สามารถถ่ายเทอากาศได้ดีตลอดวัน 
แม้จะเป็นรายละเอียดเพียงเล็กน้อย แต่ผู้ออกแบบก็ให้ความสำคัญทั้งการอยู่อาศัยและการใช้งานจริง จึงนำมาสู่การออกแบบพื้นที่บริเวณห้องทำงานให้มีความเป็นส่วนตัวจากพื้นที่ใช้สอยส่วนกลางของบ้าน แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถเปิดโล่งเชื่อมต่อกับพื้นที่อื่น ๆ ได้อย่างโล่งกว้าง ด้วยการดีไซน์ประตูไม้บานเลื่อนที่สามารถปิดกั้นได้อย่างแนบเนียนดุจผนังของบ้าน พร้อมเปิดออกโล่งด้วยฟังก์ชั่นบานเลื่อนซ่อนเก็บ 
บันไดบ้านได้รับการออกแบบมาอย่างน่าสนใจ โดยสามารถเพิ่มความสวยงามให้พื้นที่ภายในบ้านโดดเด่นโดยไม่ต้องเก็บซ่อน ด้วยการใช้ระแนงไม้กั้นบันไดให้เป็นสัดส่วนจากโซนห้องรับแขก แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถเชื่อมโยงบรรยากาศอันอุ่นของความเป็นบ้านได้อย่างกลมกลืน 
การออกแบบพื้นที่ใช้สอยบริเวณชั้นสองของบ้านมีการดีไซน์เป็นผนังสองชั้นที่เว้นระยะออกจากห่างจากกันเล็กน้อยแบบ Double skin โดยมี Façade เป็นระแนงไม้กั้นที่สามารถเลื่อน เปิด-ปิด ได้ตามต้องการเป็นผนังชั้นแรกก่อนจะถึงผนังจริงของตัวบ้าน ซึ่งสามารถช่วยกรองความร้อนจากแสงแดดภายนอกได้ดี พร้อมทั้งยังช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้การอยู่อาศัยในแต่ละวันได้อย่างเป็นส่วนตัว 
เพราะ ‘บ้าน’ คือองค์ประกอบสำคัญต่อการใช้ชีวิต การอยู่อาศัยภายในบ้านที่ดีจึงมีส่วนช่วยเพิ่มศักยภาพแห่งการมีชีวิตอยู่ให้เต็มไปด้วยความสุขสบายอย่างแท้จริง
