บ้านและสวน

ไทรใบสัก ไม้ปราบเซียนที่ทำให้ต้องเวียนหัวกับปัญหาใบเหลือง

สวัสดีครับวันนี้ทางแอดมิน“คนรักบ้านและสวน”จะพาไปทำความรู้จักกับไทรใบสัก เปลี่ยนไม้ปลูกยากให้ดูแลง่าย แม้ไทรใบสักจะกลายเป็นไม้ปราบเซียนที่ทำให้หลายคนต้องเวียนหัวกับปัญหาใบเหลือง ใบไหม้ ใบร่วง ที่เลี้ยงดูยังไงก็มีโอกาสไปต่อน้อยมาก แต่หากรู้จักวิธีการดูแลที่เหมาะสม ก็สามารถดูแลพรรณไม้ชนิดนี้ให้เป็นไม้ใบที่สวยสมบูรณ์และอยู่คู่กับบ้านของท่านไปได้อีกนาน

ไทรใบสัก เป็นพรรณไม้เขตร้อนในตระกูลไทร ซึ่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบแอฟริกาตะวันตก จึงทำให้พรรณไม้ชนิดนี้สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาพภูมิอากาศที่มีความอบอุ่นหรือร้อนชื้น มีจุดเด่นอยู่ที่ใบขนาดใหญ่มีรูปฟอร์มใบเป็นหยักพริ้วสวยงามเหมาะกับลำต้นทรงสูง แม้จะเป็นพรรณไม้ที่ชื่นชอบแสงแดดแต่ก็สามารถปลูกได้ในที่ ที่มีแสงรำไร สามารถขยายพันธุ์ด้วยวิธีการปักชำกิ่งและตอนกิ่ง เหมาะสำหรับการปลูกลงในดินร่วนที่ระบายน้ำได้ดี แต่มีการเติบโตอย่างช้า ๆ แบบค่อยเป็นค่อยไป หากนำมาปลูกในกระถางจะเจริญเติบโตได้ช้ากว่าการปลูกลงดินตามธรรมชาติที่ลำต้นสามารถสูงได้ตั้งแต่ 5-12 ม.

ปลูกไทรใบสักอย่างไรให้ใบสวยสมบูรณ์

ปริมาณแสงแดดที่เหมาะสม แสงแดดรำไรเป็นสิ่งที่หาได้ค่อนข้างยากในสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยที่มีแดดร้อนจัดเกือบตลอดปี ซึ่งแสงแดดร้อนจัดคือหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ไทรใบสักกลายเป็นจุดสีน้ำตาลไหม้ได้เช่นกัน แต่หากปลูกไทรใบสักในที่มีแสงน้อยจนเกินไปก็อาจทำให้พรรณไม้ชนิดนี้ไปไม่รอด ในการปลูกต้นไทรใบสัก ไม่ว่าจะปลูกลงดิน ปลูกในกระถาง ตั้งประดับไว้นอกบ้านหรือในบ้าน ก็ต้องมั่นใจว่าพื้นที่ในบริเวณนั้นมีปริมาณแสงแดดที่เพียงพอ และไม่ควรปลูกไทรใบสักไว้ในบ้านที่ต้องเปิดไฟส่องสว่างตอนกลางวัน เพราะอาจทำให้ต้นไม้ได้รับแสงไม่เพียงพอจนใบหลุดร่วงไม่สวยงาม หรืออาจจะทำให้ลำต้นเสียรูปฟอร์มไปจากเดิม เนื่องจากต้นไม้เอียงลำต้นตามทิศทางของแสงแดด

รดน้ำอย่างถูกวิธี การรดน้ำที่มากจนเกินไปอาจทำให้ใบของต้นไทรใบสักกลายเป็นขอบสีเหลืองหรือขอบใบอาจแห้งจนเป็นสีน้ำตาลได้เช่นกัน จึงทำให้การรดน้ำเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย โดยควรรดน้ำในปริมาณที่เหมาะสมอย่างพอดี มีความชุ่มชื้นแต่ไม่แฉะจนเกินไป ซึ่งอาจสังเกตได้จากปริมาณน้ำที่รดว่าซึมถึงก้นกระถางหรือไม่ แต่ไม่ควรให้มีน้ำขังอยู่ที่จานรองกระถางเพราะอาจทำให้รากของต้นไม้กลายเป็นเชื้อราและเน่าได้ในที่สุด และหลังจากการรดน้ำต้นไม้ในแต่ละครั้งให้คอยสังเกตระดับความชื้นจากวัสดุปลูก โดยการใช้นิ้วจิ้มลงไปในดินประมาณครึ่งนิ้วชี้ หากดินยังมีความชื้นดีอยู่ก็ไม่จำเป็นต้องรดน้ำเพิ่มเติม แต่หากตรวจเช็คดูแล้วว่าดินอยู่ในสภาพที่แห้งแล้วค่อยรดน้ำ

เลือกวัสดุปลูกอย่างไรถึงจะดี สำหรับต้นไทรใบสักที่ซื้อมาจากร้านและมีวัสดุปลูกที่ดีอยู่แล้ว โดยมีส่วนผสมในดินที่ช่วยในการระบายน้ำอย่างเหมาะสมก็สามารถเลือกใช้ดินเดิมได้เลยโดยไม่ต้องเปลี่ยนดินใหม่ แต่ใช้วิธีการเติมเพิ่มสารอาหารในดินด้วยแร่ธาตุหรือปุ๋ยในดิน ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้วัสดุปลูกมากยิ่งขึ้น แต่หากดินที่ติดมากับต้นไม้เป็นดินที่มีคุณสมบัติไม่เหมาะสมต่อการปลูกไทรใบสักก็ควรเปลี่ยนดินใหม่ โดยควรนำกาบมะพร้าวเดิมออกเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคของต้นไม้ แล้วหันมาเลือกใช้ดินก้ามปูที่ผสมกับเม็ดดินเผาแทนดินผสมกาบมะพร้าว อาจใช้เศษอิฐรองบริเวณก้นกระถางเพื่อให้เกิดช่องว่างและช่วยทำให้ดินในกระถางสามารถถ่ายเทอากาศได้ดี

กระถางปลูกแบบไหนที่เหมาะสม การเลือกกระถางให้เหมาะสมกับต้นไทรใบสักนั้นสามารถใช้ได้ทั้งกระถางขนาดมาตรฐานและกระถางปลูกทรงสูง แต่ควรมีการเปลี่ยนกระถางใหม่ให้มีขนาดใหญ่มากขึ้น หากต้นไทรใบสักมีการแตกกิ่งมากขึ้นจนกระถางปลูกไม่สามารถทรงตัวรับน้ำหนักของต้นไม้ได้เท่าเดิม หรืออาจมีการขยายตัวของรากไม้ที่แน่นจนเต็มกระถาง ซึ่งอาจทำให้ต้นไทรใบสักไม่มีการเจริญเติบโตเท่าที่ควร

ตัดแต่งรากให้ต้นไม้แข็งแรง ต้นไทรใบสักเป็นพรรณไม้ที่มีการเจริญเติบโตค่อนข้างช้า โดยเฉพาะการปลูกไทรใบสักไว้ในกระถาง แต่ก็นับว่าเป็นต้นไม้ที่มีการเติบโตตามพัฒนาการทางด้านเวลา ซึ่งอาจทำให้ต้องขยับขยายต้นไม้ไปสู่กระถางใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เนื่องจากต้นไม้มีรากแน่นเต็มกระถาง ในระยะเวลาทุก ๆ 1-2 ปี จึงควรมีการตัดแต่งรากของต้นไม้อยู่เสมอ เพื่อช่วยรักษารากไม้ให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

ตัดแต่งกิ่งและใบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ต้นไทรใบสักดูสวยงามและมีรูปทรงเหมาะสมกับห้องหรือนำไปใช้ในตามต้องการ แนะนำว่าควรมีการตัดแต่งกิ่งและใบอยู่เสมอ โดยเลือกตัดกิ่งและใบแก่ออกเพื่อให้ต้นไม้มีลักษณะเป็นทรงพุ่มที่สวยงามตามความชอบ

เติมปุ๋ยเพิ่มสารอาหาร การปลูกไทรใบสักแนะนำว่าให้ใส่ปุ๋ยละลายช้าสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ก็เพียงพอต่อความต้องการของต้นไม้ โดยปุ๋ยละลายช้าจะค่อย ๆ ละลายสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของต้นไม้ออกมาอย่างช้า ๆ ซึ่งจะช่วยทำให้ต้นไทรใบสักได้รับสารอาหารอย่างสม่ำเสมอ และส่งผลให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งยังช่วยลดการเกิดปัญหารากไม้ดูดความชื้นของปุ๋ยได้อีกด้วย

เช็ดทำความสะอาดใบให้สวยงาม ส่วนที่สวยงามของไทรใบสักคือจุดเด่นที่ใบขนาดใหญ่ ซึ่งอาจทำให้ฝุ่นหรือคราบละอองความสกปรกต่าง ๆ เกาะอยู่ตามใบได้อย่างชัดเจน จึงควรหมั่นเช็ดทำความสะอาดใบอย่างสม่ำเสมอเพื่อขจัดคราบฝุ่นละอองที่ติดอยู่ตามใบไม้ โดยใช้ผ้านุ่มชุบน้ำหมาดมาเช็ดตามใบด้านบน เพื่อช่วยให้ใบไม้สามารถสังเคราะห์แสงได้มากขึ้นโดยไม่มีฝุ่นมาเกาะอยู่ตามใบ แต่ไม่ควรเช็ดฝุ่นด้วยมือเปล่า เพราะอาจทำให้ใบไม้ช้ำเป็นรอย หรืออาจเกิดอาการแพ้จากยางที่อยู่ตามใบได้

ถ้าเพื่อนๆ ชอบเคล็ดลับนี้ของทางแอดมิน“คนรักบ้านและสวน”ก็ลองนำไอเดียของตัวอย่างนี้ไปปรับใช้กันดูนะครับ

Back to top button